10

Jun

2025

testimonials

กันแดดไฮบริด ทางเลือกใหม่ของคนรักผิว ปกป้องครบจบในหลอดเดียว

อัพโหลดเมื่อ 06.10.25

LINE it!
กันแดดไฮบริด ทางเลือกใหม่ของคนรักผิว ปกป้องครบจบในหลอดเดียว

กันแดดไฮบริดคืออะไร? ไขข้อสงสัยเทรนด์ความงามที่กำลังมาแรง

สำหรับสายรักผิวอย่างเราๆ การเลือกกันแดดที่ใช่ถือว่าเป็นก้าวแรกที่สำคัญสุดๆ เลยนะคะ ไม่ว่าจะเป็นคนที่ทำงานในออฟฟิศต้องเจอแสงหน้าจอคอมตลอดทั้งวัน หรือคนที่ต้องลุยงานกลางแจ้ง โดนแดดเมืองไทยแบบจังๆ ทุกวัน การใช้กันแดดดีๆ ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์เรา คือสิ่งที่พลาดไม่ได้เลยจริงๆ เดี๋ยวนี้เทคโนโลยีสกินแคร์เขาพัฒนาไปไกลมากค่ะ และหนึ่งในตัวที่กำลังมาแรงแบบสุดๆ ก็คือ “กันแดดไฮบริด” นั่นเอง!! 

ใครยังไม่เคยลองอาจจะสงสัยว่ามันต่างจากกันแดดทั่วไปยังไง? ต้องบอกเลยว่ากันแดดไฮบริดคือการรวมข้อดีของกันแดด Chemical และ Physical เข้าด้วยกัน ทำให้ได้เนื้อสัมผัสที่บางเบา เกลี่ยง่าย ไม่เหนอะหนะ แถมยังปกป้องผิวได้จากรังสี UVA/UVB และแสงสีฟ้าจากหน้าจออีกด้วย!
 

กันแดดไฮบริด คือ นวัตกรรมที่ตอบโจทย์ทุกปัญหา

เมื่อพูดถึงกันแดดไฮบริด คือ การนำเอาเทคโนโลยีของกันแดดแบบ Physical ที่ทำหน้าที่สะท้อนแสงแดด มาผสมรวมกับกันแดดแบบ Chemical ที่ช่วยดูดซับรังสี UV เข้าด้วยกันในผลิตภัณฑ์เดียว

  • Physical Sunscreen สะท้อนรังสี UV ออกไปจากผิวทันที ไม่ซึมเข้าผิว

  • Chemical Sunscreen ดูดซับรังสี UV แล้วแปลงเป็นความร้อน ไม่ให้ทำร้ายผิว

ความพิเศษของกันแดด hybrid อยู่ที่การทำงานสองทิศทาง คือสามารถสะท้อนรังสีที่เข้ามาได้ในระดับหนึ่ง และยังดูดซับรังสีที่เหลือได้อีกด้วย ทำให้การป้องกันแสงแดดมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าการใช้กันแดดแบบทั่วไป

สิ่งที่น่าสนใจคือเนื้อสัมผัสของกันแดดประเภทนี้มักจะบางเบากว่ากันแดด Physical ทั่วไป แต่ก็ไม่ทำให้ผิวระคายเคืองเหมือนกันแดด Chemical บางตัว จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับคนที่มีผิวแพ้ง่ายหรือต้องการใช้กันแดดเป็นประจำทุกวันแบบไร้กังวล

กันแดดไฮบริด, กันแดด hybrid, hybrid sunscreen ข้อเสีย, กันแดดไฮบริด คือ
 

จุดเด่นที่ทำให้กันแดดไฮบริด โดดเด่นกว่า!

การที่กันแดดไฮบริดได้รับความนิยมมากขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมาไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เพราะมีข้อดีที่เห็นได้ชัดเจนหลายเรื่อง เริ่มต้นที่ความสามารถในการป้องกันแสงแดดที่ครอบคลุมทั้งรังสี UVA และ UVB ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่เหมือนกันแดดบางประเภทที่อาจจะป้องกันได้ดีในด้านใดด้านหนึ่งเท่านั้น

ในเรื่องของเนื้อสัมผัสก็เป็นจุดขายที่สำคัญ เพราะกันแดด hybrid มักจะมีความบางเบา ซึมซาบได้ดี ไม่ทิ้งคราบขาวหรือความมันวาวบนใบหน้าเหมือนกันแดด Physical แบบเก่า ทำให้ใช้ได้สบายแม้ในสภาพอากาศที่ร้อนชื้นของเมืองไทย

นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมที่ช่วยบำรุงผิวไปในตัว เช่น สารที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น หรือสารต้านอนุมูลอิสระ ทำให้การทากันแดดไม่ใช่แค่การป้องกันเท่านั้น แต่ยังเป็นการดูแลผิวไปด้วยในขั้นตอนเดียว
 

เปรียบเทียบกันแดดแต่ละประเภท เลือกแบบไหนดี?

เพื่อให้เข้าใจถึงความพิเศษของกันแดดไฮบริดมากขึ้น เรามาดูความแตกต่างของกันแดดแต่ละประเภทกัน

  • กันแดด Physical

ทำงานโดยการสะท้อนแสงแดดออกจากผิว มีความปลอดภัยสูง เหมาะกับผิวแพ้ง่าย แต่มักจะมีเนื้อค่อนข้างหนัก อาจทิ้งคราบขาว และต้องทาให้ทั่วถึงจึงจะได้ประสิทธิภาพเต็มที่

  • กันแดด Chemical

กันแดด Chemical จะดูดซับรังสี UV แล้วเปลี่ยนเป็นพลังงานรูปแบบอื่นที่ไม่เป็นอันตราย เนื้อสัมผัสบางเบา ไม่ทิ้งคราบ แต่อาจทำให้เกิดการระคายเคืองในผิวบางประเภท

  • กันแดด Hybrid

ส่วนกันแดดไฮบริดก็เอาข้อดีของทั้งสองแบบมารวมกัน ได้ทั้งการป้องกันที่เหมาะสมและเนื้อสัมผัสที่เบาสบายผิว ทำให้เป็นทางเลือกที่สมดุลและเหมาะสมกับสภาพผิวของหลายคนในปัจจุบัน
 

กันแดดไฮบริด ข้อเสียที่ควรรู้ไว้!

แม้ว่ากันแดดไฮบริดจะมีข้อดีมากมาย แต่ก็มีข้อจำกัดบางประการที่ควรพิจารณา 

  • เนื้อสัมผัสอาจไม่เหมาะกับทุกสภาพผิว

แม้กันแดดไฮบริดจะพยายามผสานข้อดีของทั้งสองประเภทไว้ด้วยกัน แต่บางสูตรอาจยังรู้สึกหนักผิวสำหรับคนที่มีผิวมัน หรือให้ฟินิชที่ไม่สวยบนผิวแห้ง ดังนั้นการเลือกสูตรที่เหมาะกับสภาพผิวของเราจึงเป็นเรื่องสำคัญ

  • ส่วนผสมของผลิตภัณฑ์

อีกประเด็นหนึ่งคือการเลือกซื้อที่ต้องใช้ความระมัดระวัง เพราะบางแบรนด์อาจอ้างว่าเป็นกันแดดไฮบริด แต่จริงๆ แล้วอาจจะเป็นเพียงการผสมสารกันแดดหลายชนิดเข้าด้วยกันโดยไม่มีการปรับสูตรให้เหมาะสม สำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายมาก การทดสอบก่อนใช้ก็ยังคงเป็นสิ่งจำเป็น เพราะแม้ว่าจะอ่อนโยนกว่ากันแดดเคมิคัลทั่วไป แต่ก็ยังมีส่วนผสมของสารเคมีอยู่บ้างก็อาจะส่งผลให้เกิดการระคายเคืองผิวได้ง่าย

กันแดดไฮบริด, กันแดด hybrid, hybrid sunscreen ข้อเสีย, กันแดดไฮบริด คือ
 

  • อาจทำปฏิกิริยากับเมคอัพหรือสกินแคร์บางประเภท

ในบางกรณี ส่วนผสมของกันแดดไฮบริดอาจทำปฏิกิริยากับผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหรือเครื่องสำอางบางประเภท ทำให้เกิดปัญหาอย่างเช่นเป็นคราบ หลุดลอกเป็นขุย หรือทำให้เมคอัพไม่ติดทนตลอดวัน ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคในการใช้งานจริง โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนหรือความชื้นสูง
 

การเลือกใช้กันแดดไฮบริดให้เหมาะสม

  • การเลือกกันแดดไฮบริดที่ดีควรเริ่มต้นจากค่า SPF ที่ควรอยู่ในช่วง 30-50 SPF สำหรับการใช้งานประจำวัน และมีค่า PA+++ ขึ้นไปเพื่อป้องกันรังสี UVA

  • สำหรับคนที่ทำงานในออฟฟิศ ควรเลือกกันแดดที่มีสารป้องกันแสงสีฟ้าจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ด้วย ส่วนคนที่ต้องออกแดดบ่อยควรเลือกสูตรกันน้ำกันเหงื่อ

  • การทากันแดดให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดก็สำคัญไม่แพ้กัน ควรทาก่อนออกแดด 15-30 นาที ในปริมาณที่เพียงพอ และทาซ้ำทุก 2-3 ชั่วโมง หรือหลังจากเหงื่อออกเยอะ
  • เลือกกันแดดตามสภาพผิวของแต่ละบุคคล
    • ผิวแห้ง เลือกสูตรที่มีสารเพิ่มความชุ่มชื้น เช่น กลีเซอรีน, เชียบัตเตอร์
    • ผิวมัน เลือกสูตร oil-free / non-comedogenic เนื้อบางเบาไม่อุดตัน
    • ผิวแพ้ง่าย หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ น้ำหอม พาราเบน เลือกสูตรที่ผ่านการทดสอบทางผิวหนัง


ปกป้องผิวจากแดดเมืองไทยยังไงให้รอด แนะนำ Claire Airy Essence UV Protector SPF50+ PA++++

เมื่อพูดถึงกันแดดไฮบริดที่ออกแบบมาเพื่อคนไทยโดยเฉพาะ Claire Airy Essence UV Protector SPF50+ PA++++ คือนวัตกรรมกันแดดที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ด้วยเนื้อเซรั่มบางเบาที่ซึมซาบเร็ว เหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นของเมืองไทยเป็นอย่างมาก ถือเป็นกันแดด Hybrid สูตรใหม่ล่าสุดจาก Claire ที่มาในรูปแบบเนื้อเซรั่มบางเบา สบายผิว ไม่เหนอะหนะ ช่วยลดอุณหภูมิผิว และลดรอยแดงจากแสงแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก! เหมาะสุดๆ สำหรับใครที่ผิวแพ้ง่ายหรือมีแนวโน้มเป็นสิวง่าย เพราะตัวนี้คือทั้งบางเบาและอ่อนโยน แถมยังกันน้ำ กันเหงื่อได้ด้วยนะ ใช้ได้ทุกวัน แม้ในวันลุยๆ ต้องอยู่กลางแจ้งแบบ Outdoor Activity นานแค่ไหนก็เอาอยู่

กันแดดไฮบริด, กันแดด hybrid, hybrid sunscreen ข้อเสีย, กันแดดไฮบริด คือ
 

จุดเด่นเด็ดๆ ของ Claire Airy Essence UV Protector SPF50+ PA++++ ที่สายบิวตี้ห้ามพลาด

  1. Airy Essence Texture เนื้อเซรั่มที่บางเบามากกก (ก.ไก่ล้านตัว) เกลี่ยง่าย ซึมไว ไม่มัน ไม่วอก ไม่เหนียวเหนอะหนะ เหมาะกับอากาศร้อนชื้นของเมืองไทยแบบสุดๆ
  2. Broad Spectrum ปกป้องผิวจากรังสี UVA, UVB, รังสี IR และ Blue light ครบจบในหลอดเดียว ไม่ว่าจะแดด แสง หรือจอคอมก็สู้ได้!
  3. Smartvector Technology เทคโนโลยีที่ช่วยปล่อย Vitamin C และ E เมื่อสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง ช่วยป้องกันผิวลึกถึงระดับ DNA และต่อต้านอนุมูลอิสระทันทีแบบไม่ต้องรอ
  4. Agascalm™ ส่วนผสมจากดอก Hyssop ที่ช่วยลดอุณหภูมิผิว ลดรอยแดง ลดการอักเสบจากความเครียดหรือแสงแดด ทำให้ผิวเย็นสบาย
  5. Hyalorepair 4D ไฮยาลูรอนแบบ 4 มิติ ให้ความชุ่มชื้นลึก ซ่อมแซมผิว เติมน้ำให้ผิวดูเด้งสุขภาพดี
  6. Anti-Blue Light ด้วยสารสกัดจากสาหร่ายสีเขียว Scenedesmus Rubescens ที่ช่วยลดผลกระทบของแสงสีฟ้าจากหน้าจอ ช่วยชะลอความเสื่อมของผิวและลดโอกาสเกิดริ้วรอยก่อนวัย
  7. Reef Safe ไม่มีสารที่เป็นอันตรายต่อปะการัง เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เหมาะสำหรับสายรักธรรมชาติที่อยากดูแลโลกไปพร้อมๆ กับการดูแลผิว
  8. Water Resistant กันน้ำ กันเหงื่อได้ดีมาก ใช้แล้วไม่หลุดง่าย เหมาะกับกิจกรรมกลางแจ้งหรือวันไปทะเลสุดๆ


สรุปแล้วว่าดี! แดดแรงแค่ไหนก็เอาอยู่ต้อง Claire Airy Essence UV Protector SPF50+ PA++++

การดูแลผิวที่ดีเริ่มต้นจากการป้องกันที่ถูกต้อง และกันแดดไฮบริดก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการความสมดุลระหว่างประสิทธิภาพและความสบายในการใช้งาน ใครกำลังมองหากันแดดที่บางเบา แต่ประสิทธิภาพดีไม่เบา Claire Airy Essence UV Protector SPF50+ PA++++ ตัวแม่เรื่องกันแดด ที่ครบทั้งปกป้องและบำรุงในหลอดเดียว! ด้วยเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ทุกปัญหาผิวในชีวิตประจำวัน ทั้งแสงแดด แสงจอมือถือจอคอม อีกทั้งยังมีปัจจัยเรื่องความเครียด ฝุ่นและมลภาวะ จึงใช้ได้ทุกวันแม้ผิวบอบบาง พร้อมบำรุงผิวไปในตัว บอกเลยว่านี่เป็นไอเทมที่ควรมีติดโต๊ะเครื่องแป้งไว้เลย!
 

สั่งผ่านช่องทางออนไลน์ 
Line OA: https://lin.ee/aCH1I43 
Shopee: https://shope.ee/5fPQDg8DU6 
Lazada: https://www.lazada.co.th/shop/claireskin-by-slc 


สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม 
Facebook: ClaireSkin-Thailand 
Line: @CR88 หรือคลิก https://lin.ee/aFq9CKU 

 
 
+