เข้าแล้ว เข้าหน้าร้อนแบบเต็มตัวแล้ว มีนานี้มีร้อนแน่!! สิ่งที่มาคู่กับหน้าร้อนก็คือแดด แดดหน้าร้อนก็คือแรงแบบตะโกน แสบผิวไม่ไหว รังสียูวีก็คือแผ่กระจายแบบ 100% แดดแรงแบบนี้ วันนี้ก็ต้องมารีวิวครีมกันแดดทาหน้า ไอเทมที่หน้าร้อนนี้ต้องมี

ครีมกันแดด (Sunscreen) คือ สกินแคร์ที่มีสารช่วยปกป้องผิวจากรังสีอัลตราไวโอเลตหรือรังสียูวี ช่วยป้องกันไม่ให้ผิวถูกแสงแดดทำลายจนเกิดการไหม้ และจุดด่างดำ ความหมองคล้ำต่างๆ โดยปัจจุบันก็มีครีมกันแดดอยู่หลายแบบหลายประเภท อาทิ แบบครีม แบบสเปรย์ หรือแบบเนื้อเซรั่ม ซึ่งถ้าเข้าช้อปบิวตี้และตรงไปที่โซนกันแดดก็จะมีให้เห็นเยอะไปหมดแบบละลานตาเลย 

ซึ่งการจะเลือกใช้กันแดดจะเลือกตามเนื้อสัมผัสอย่างเดียวมันก็ไม่ได้ ที่เราเห็นกันบ่อยๆ อยู่แล้วบนครีมกันแดดก็คืออักษรพวกนี้ SPF กับ PA อธิบายให้เข้าใจง่ายๆ 

• SPF (Sun Protection Factor) หน่วยวัดการปกป้องผิวจากรังสี UVB ซึ่งถ้าค่า SPF สูงก็หมายถึงว่าจะช่วยดูดซับรังสี UVB ได้มาก

• PA (Protection grade of UVA) หน้าที่หลักคือช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVA และเราจะเห็นว่า PA จะตามด้วย + เสมอ ซึ่ง + เยอะก็หมายถึงว่ากันแดดตัวนั้นมีประสิทธิภาพในการปกป้อง UVA ได้สูง

อย่าไว้ใจ! รังสี UVA UVB อันตรายแบบสุดๆ

มาทำความรู้จักเจ้ารังสีร้ายๆ 2 ตัวนี้ก่อน รังสียูวี คือ รังสีคลื่นความถี่สั้น มีพลังงานมากสุดในบรรดารังสีอื่นที่ส่องจากดวงอาทิตย์ถึงพื้นโลก ซึ่งรังสี UVA และ UVB ส่องถึงพื้นโลกโดยไม่ถูกชั้นบรรยากาศดูดซับเอาไว้ ทำให้รังสียูวีจะกระทบถึงผิวหนังเราได้  
   

UVA และ UVB ต่างกันอย่างไร 

• UVA = Aging 

เป็นรังสีที่มีความยาวคลื่น 320-400 นาโนเมตร ในแสงแดดจะมี UVA มากถึง 95% และวันที่ไม่มีแสงแดดก็ยังมี UVA ได้มากถึง 80% โดยรังสี UVA อันตรายแบบสุดๆ เพราะเป็นรังสีที่มีความเข้มข้นมาก สามารถทำลายชั้นผิวได้ถึงชั้นหนังแท้ ทะลุผ่านกระจกได้ แม้อยู่ในที่ร่ม ผลของรังสี UVA คือ ทำให้เกิดฝ้า ฝ้าแดด จุดด่างดำ ผิวหมองคล้ำ และริ้วรอยก่อนวัยด้วย

• UVB = Burn 

เป็นรังสีที่มีความยาวคลื่น 290-320 นาโนเมตร ในแสงแดดจะมีประมาณ 5% และมีความเข้มสุดในช่วง 10.00-16.00 น. โดยรังสี UVB จะทำลายแค่ผิวชั้นนอก ซึ่งจะส่งผลทำให้ผิวไหม้แดดหรือผิวไหม้เกรียม รวมถึงมีอาการแสบร้อน แต่ความอันตรายก็มีหากได้รับรังสี UVB ในระยะยาว มีโอกาสเกิดมะเร็งผิวหนังได้ 
    

ชี้เป้า ครีมกันแดดทาหน้า ยี่ห้อไหนดีที่สุด 2022

Claire Airy Esssence UV Protector SPF50+ PA++++ 

ครีมกันแดดทาหน้า กันน้ำ กันเหงื่อ

Claire Airy Esssence UV Protector SPF50+ PA++++ เป็นครีมกันแดดทาหน้าเนื้อเซรั่ม บางเบาแบบสุดๆ ไม่หนักผิวเลย คือหน้าร้อนของไทยมันจะทาอะไรที่หนาไม่ได้ เพราะมันจะยิ่งเหนอะหนะ ซึ่งเราก็แนะนำตัวนี้เลย ความเก๋ของครีมกันแดดตัวนี้คือมีนวัตกรรมช่วยลดอุณหภูมิผิว ให้ผิวไม่แสบร้อนจนเกินไป และด้วยความที่มี SPF50+ PA++++ จึงบอกได้เลยว่าสามารถปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB ได้แบบสูงสุด อีกทั้งยังช่วยปกป้องรังสี UV/IR ได้ด้วย ล้ำไปกว่ากันแดดทั่วไปด้วยเทคโนโลยีที่เป็นเกราะป้องกันเคลือบผิวไว้สามารถป้องกันผิวได้ทันทีที่สัมผัสแสงแดด และไม่ใช่แค่แสงแดดแต่ครีมกันแดด Claire ยังปกป้องแสงสีฟ้าจากหน้าจอคอมพิวเตอร์และจอมือถือได้อีกด้วย เป็นครีมกันแดดที่ใส่ใจในสิ่งแวดล้อมใต้ท้องทะเล ไม่มีส่วนผสมที่เป็นอันตรายต่อปะการัง ลงเล่นน้ำได้แบบรักโลก 
   

และไม่เพียงแค่ค่า SPF กับ PA ที่สูง แต่การจะเลือกว่าครีมกันแดด ยี่ห้อไหนดีที่สุด มีอย่างหนึ่งเลยที่เป็นเทรนด์ของครีมกันแดดในตอนนี้ ครีมกันแดดทาหน้า กันน้ำ กันเหงื่อ เป็นคุณสมบัติอันดับต้นๆ ที่คนมองหา ซึ่งในครีมกันแดด Claire มี Water Resistant กันน้ำ กันเหงื่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ สนุกกับทุกกิจกรรมได้แบบไม่ต้องกังวลใจ
   

ใช้ครีมกันแดดทาหน้าก่อนออกจากบ้านแล้ว ก็ใช้ระหว่างวันด้วยสเปรย์กันแดดแบบพกง่ายอยู่ที่ไหนก็ฉีดได้ กันแดดได้ทั้งวันแบบไม่ต้องกลัวผิวดรอปเลย    
   

Claire Invisible Sun Spray SPF50+ PA++++

สเปรย์กันแดดล่องหน 

Claire Invisible Sun Spray SPF50+ PA++++ สเปรย์กันแดดล่องหนเนื้อบางเบา แต่ปกป้องได้อย่างล้ำลึก เป็นกันแดดที่มี SPF50+ ปกป้องผิวจาก UVB ได้ยาวนาน และมี PA++++ ปกป้องผิวจาก UVA ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง ปรับสมดุลผิว เพิ่มภูมิคุ้มกันให้เซลล์ผิวพร้อมรับมือกับแสงแดดอย่างมั่นใจ นอกจากป้องกันผิวจากแสงแดดแล้ว ยังลดจุดด่างดำและลดเลือนริ้วรอยได้ด้วย ฉีดได้ทุกส่วนไม่ว่าจะเป็นผิวหน้า หรือผิวกาย 
   

ทาครีมกันแดดอย่างไรให้มีประสิทธิภาพที่สุด

• ทาครีมกันแดดก่อนออกแดด 15-30 นาที

• เลือกครีมกันแดดที่ป้องกันได้ทั้ง UVA และ UVB 

• ทาซ้ำทุกๆ 2 ชั่วโมง หากต้องอยู่กลางแจ้งหรือเจอแดดเป็นเวลานาน

• ใช้กันแดดในปริมาณที่เหมาะสม ทาบนใบหน้าและคอ วัดง่ายๆ ด้วย 2 นิ้ว เนื่องจากการทาครีมกันแดดด้วยปริมาณที่ถูกต้องจะทำให้ค่า SPF ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ คือ ครีมกันแดด 2 มิลลิกรัมต่อผิวหนัง 1 ตารางเซนติเมตร ดังนั้นการทาครีมกันแดดให้ทั่วใบหน้าและคอจะอยู่ที่ประมาณ 1 ช้อนชา หรือประมาณ 2 ข้อนิ้วมือ ซึ่งถ้าทาครีมกันแดดน้อยเกินไปก็จะทำให้ค่า SPF ทำงานไม่เต็มที่ ไม่สามารถช่วยป้องกันรังสี UVB ได้ 

ครีมกันแดดทาหน้า รีวิวแบบจุกๆ